การเชื่อมต่อ
- • Bluetooth 4.2
รายละเอียดสินค้าโดยย่อ
-ให้กำลังขับโดยรวมที่ 20 วัตต์JBL FLIP 5 เป็นลำโพงไร้สายรุ่นใหม่จากทาง JBL เองในปี 2019 นี้ และยังเป็นการอัพเกรดบางจุดจากในรุ่นก่อน JBL Flip 4 ทางด้านการออกแบบนั้น ตัวลำโพงมีการเปลี่ยนแปลงที่น้อยมากๆ และยังคงมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากในความสูง 18 เซนติเมตรและมีน้ำหนัก 540 กรัม สำหรับปุ่มควบคุมนั้นมีทั้งหมดเพียงแค่ 6 ปุ่มเท่านั้น คือปุ่มเปิด/ปิด, ปุ่ม Bluetooth, ปุ่ม Pay/Pause, ปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่มลดเสียง, และปุ่มใช้งานโหมด JBL Partybox ซึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อเข้ากับลำโพงไร้สายของ JBL ที่รองรับการใช้งาน Partybox เมื่อใช้แล้วจะเป็นการเชื่อมลำโพงไร้สายของ JBL เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มพลังเสียง ส่วนที่ตัดออกไปจากรุ่น Flip 4 นั่นคือ Flip 5 ไม่มี Speakerphone หรือไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์ในตัวแล้ว
สำหรับสเป็คภายในนั้น JBL Flip 5 เป็นลำโพงระบบเสียง 2.1 Stereo โดนไดรเวอร์ภายในนั้นเป็นไดรเวอร์แบบ Racetrack Driver มีกำลังขับโดยรวม (RMS) ที่ 20 วัตต์ รองรับความถี่ Frequency Range ที่ 65Hz – 20kHz และแน่นอนว่าเมื่อ JBL Flip 5 เป็นลำโพงแบบพกพาใช้งานข้างนอก ทำให้มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งสามารถกันน้ำสาดหรือตกน้ำในความลึกไม่เกิน 1 เมตรได้ถึง 30 นาที สำหรับแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้ได้ยาวนานมากถึง 12 ชั่วโมง และชาร์จเพียงแค่ 2.5 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า JBL Flip 4 ถึงหนึ่งชั่วโมงเพราะ JBL Flip 5 เปลี่ยนมาใช้ช่องเชื่อมต่อ USB-C แทน Micro USBสำหรับช่อง AUX 3.5mm. นั้นไม่มีมาด้วย ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่างอื่นได้นอกจากเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
สำหรับการตั้งวางใช้งานนั้น เพื่อให้ได้ประสบการณ์ของเสียงที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้วาง JBL Flip 5 ในแนวนอน เพราะหากอยู่ในเป็นแนวตั้งกับพื้นนั้น จะทำให้พื้นที่ของ Passive Radiator นั้นติดอยู่กับพื้นอีกข้างหนึ่ง แต่ถ้าหากต้องการใช้งานแนวตั้งก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะทาง JBL เองได้ออกแบบให้ลำโพงสามารถใช้งานในแนวตั้งได้ ส่วนการใช้งานแนวนอน ทาง JBL ได้ออกแบบให้ลำโพงอยู่ในมุมที่พอดีต่อการใช้งาน
JBL Flip 5 ใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรุ่น Bluetooth 4.2 โดยสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ Bluetooth 4.2 หรือ 5.0 ได้ทั้งคู่ เพียงแต่ว่าหากนำไปใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ Bluetooth 5.0 ตัวสมาร์ทโฟนนั้นๆ จะเปลี่ยนไปใช้ Bluetooth 4.2 เพื่อให้ใช้งานร่วมกับ JBL Flip 5 ได้
สำหรับการใช้งานนั้น เมื่อเปิด JBL Flip 5 แล้ว ผู้ใช้งานสามารถกดที่ปุ่ม Bluetooth ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของปุ่ม เปิด/ปิด ได้ทันที หลังจากนั้นลำโพงไร้สายรุ่นนี้จะเข้าสู่โหมด Pairing Mode โดยในจุดนี้สามารถนำสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Bluetooth เชื่อมต่อได้ทันที หลังจากนั้นในการใช้งานครั้งต่อไป JBL Flip 5 จะเชื่อมต่ออัตโนมัติให้เองเมื่อเปิดใช้งาน
JBL Flip มีปุ่มควบคุมการใช้งานทั้งหมด 6 ปุ่ม โดยแบ่งเป็น 2 ปุ่มสำหรับการใช้งาน (ปุ่มเปิด/ปิด และ ปุ่ม Bluetooth) และอีก 4 ปุ่มควบคุมการเล่นเพลง (ปุมเล่น/หยุด, ปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่มลดเสียง และปุ่ม PartyBoost)
สำหรับแบตเตอรี่ของ JBL Flip 5 สามารถใช้งานได้ 12 ชั่วโมงในระดับความดัง 60% ของเพลงหรือสื่อบันเทิงที่เล่น ซึ่งระยะเวลาแบตเตอรี่อาจแปรผันตามความดังของการใช้งาน สำหรับการชาร์จนั้น ทาง JBL Flip ได้มอบสายชาร์จแบบ USB-C มาให้ จึงทำให้ใช้ระยะเวลาการชาร์จน้อยกว่าสายชาร์จแบบ Micro USB ของรุ่นก่อนๆ จึงใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับมาตรฐานกันน้ำที่ให้มาเป็น IPX7 สามารถกันน้ำได้ทั้งละอองน้ำ, หยดน้ำ, เหงื่อ หรือหากตกน้ำก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่ไม่ควรตกน้ำในระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตรเป็นเวลามากกว่า 30 นาที
JBL Flip 5 ไม่สามารถใช้งานเป็น Speakerphone ได้เนื่องจากในรุ่นนี้ได้ตัดออกไป ทำให้หากต้องการใช้งานลำโพงพกพาที่สามารถรับโทรศัพท์หรือสื่อสารได้ อาจจะเปลี่ยนไปใช้เป็น Clip 4 รุ่นก่อนหน้า
JBL Flip 5 สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงพกพารุ่นอื่นๆ ของ JBL ได้ โดยลำโพงที่จะใช้งานร่วมต้องเป็นลำโพงที่รองรับการใช้งานแบบ PartyBoost เท่านั้น (เช่น JBL Pulse 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไป) โดยเมื่อเชื่อมต่อแล้วลำโพงจะเปลี่ยนระบบเสียงไปใช้งานแบบ Stereo 2.1 โดยให้ลำโพงทั้งสองตัวเป็นลำโพงซ้ายและขวา แต่ถ้านำ JBL Flip 5 ไปเชื่อมต่อกับลำโพงของ JBL รุ่นก่อนๆ ที่มี Connect หรือ Connect Plus ก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อร่วมกันได้ เช่น Flip 4 ที่มี Connect Plus จะเชื่อมกับ Flip 5 ที่มี Partyboost ไม่ได้ เป็นต้น
สำหรับการทดสอบจริงนั้น ในการดูสตรีมมิ่งเซอร์วิสอย่าง Netflix หรือ YouTube นั้น ไม่พบว่ามีอาการดีเลย์ของเสียงหรือเสียงไม่ตรงกับภาพ แต่สำหรับการเล่นเกมส์แล้วอาจจะพบอาการดีเลย์ของเสียงประมาณ 0.5 วินาทีอยู่บ้าง
ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอพ JBL Connect ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบนระบบปฎิบัติการ iOS และ Android โดยในแอพนั้น เมื่อผู้ใช้งานเชื่อมต่อลำโพงเข้ากับสมาร์ทโฟนแล้วจะสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ และการใช้งานของ JBL Flip 5 ได้ เช่นตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ, การเปิดใช้งานโหมด PartyBoost การเปิด/ปิด Audio Feedback Sound (เสียงแจ้งเตือนเวลาใช้งาน เช่นเสียงปิดหรือเปิดลำโพง เสียงเมื่อเชื่อมต่อ Bluetooth สำเร็จ) รวมถึงการอัพเดตเฟิร์มแวร์ของลำโพง
แนวเสียง: เสียงของ JBL Flip 5 ออกไปในเสียงแนวเย็นๆ เหมาะสำหรับการฟังเพลงที่โดดเด่นไปในย่านเสียงเบสเป็นหลัก
เสียงเบส: สำหรับ JBL Flip 5 ถือว่าโดดเด่นมากขึ้นกับเสียงเบส ด้วยการให้เบสที่มีอิมแพคต์ใหญ่และเก็บตัวได้ไว เบสไม่ออกมาเยอะจนทำให้ไปรบกวนย่านเสียงอื่นๆ เรียกว่ามีการพัฒนาเพิ่มเติมมาจาก JBL Flip 4 อยู่พอสมควร
เสียงกลาง: เสียงกลางของ JBL Flip 5 ให้เสียงร้องที่มีรายละเอียดที่ดีและครบถ้วน เสียงเครื่องดนตรีให้มาพอๆ กับเสียงของนักร้องและแยกออกจากกันได้ดี
เสียงสูง: เสียงสูงสามารถไล่ระดับออกมาได้ดี ให้หัวเสียงมนๆ ให้รายละเอียดของเครื่องดนตรีที่ครบถ้วน
เวทีเสียง: สำหรับขนาดของลำโพงแล้ว JBL Flip 5 ให้เวทีเสียงที่ไม่กว้างมากด้วยขนาดของลำโพงที่เล็ก แต่อิมเมจของเสียงไม่ติดกันจนเกินไป
Pop / R&B / Hip-Hop / Rock